เมนู

3. อกฺโกเธน ชิเน โกธํ อสาธุํ สาธุนา ชิเน
ชิเน กทริยํ ทาเนน สจฺเจนาลิกวาทินํ.
" พึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ, พึงชนะ
คนไม่ดี ด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ ด้วยการ
ให้ พึงชนะคนพูดเหลวไหล ด้วยคำจริง. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อกฺโกเธน ความว่า บุคคลผู้มักโกรธ
แล พึงเป็นผู้อันบุคคลพึงชนะด้วยความไม่โกรธ. ผู้ไม่ดี คือผู้ไม่เจริญ
เป็นผู้อันบุคคลพึงชนะด้วยความดี, ผู้ตระหนี่ คือเหนียวแน่นจัด เป็นผู้
อันบุคคลพึงชนะด้วยจิตคิดสละของของตน, คนพูดเหลาะแหละ อันบุคคล
พึงชนะด้วยคำจริง; เพราะเหตุนั้น พระศาสดาจึงตรัสอย่างนี้ว่า " อกฺโก-
เธน ชิเน โกธํ ฯ เป ฯ สจฺเจนาลิกวาทินํ. "

ในกาลจบเทศนา นางสิริมาพร้อมด้วยญาติทั้ง 500 ตั้งอยู่แล้วใน
โสดาปัตติผล ดังนี้แล.
เรื่องอุตตราอุบาสิกา จบ.

5. เรื่องปัญหาของพระโมคคัลลานเถระ [177]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภปัญหาของ
พระมหาโมคคัลลานเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " สจฺจํ ภเณ "
เป็นต้น.

พระโมคคัลลนะไปเทวโลก


ความพิสดารว่า สมัยหนึ่ง พระเถระไปยังเทวจาริก ยืนอยู่ที่ประตู
วิมานของเทพธิดาผู้มีศักดิ์มากแล้ว จึงพูดอย่างนั้นกะเทพธิดาองค์นั้น ผู้มา
สู่สำนักของตน ไหว้แล้วยืนอยู่ว่า " เทพธิดา สมบัติของท่านมากมาย,
ท่านได้เพราะทำกรรมอะไร ? "
เทพธิดา. อย่าถามดิฉันเลย เจ้าข้า.
นัยว่า เทพธิดาละอายอยู่ด้วยกรรมอันเล็กน้อยของตน จึงได้พูด
อย่างนั้น. ก็เทพธิดานั้น อันพระเถระกล่าวอยู่ว่า " จงบอกเถิด " จึงพูดว่า
" ท่านผู้เจริญ ทานดิฉันก็มิได้ถวาย, การบูชาก็มิได้ทำ, พระธรรมก็มิได้
ฟัง, รักษาเพียงคำสัตย์อย่างเดียว. "
พระเถระ ไปยังประตูวิมานแม้อื่นแล้ว ก็ถามเทพธิดาแม้อื่นผู้มา
แล้ว ๆ ถึงเมื่อเทพธิดาเหล่านั้น ไม่อาจเพื่อจะปกปิดเกียดกันพระเถระได้
อย่างนั้นนั่นแล, เทพธิดาองค์หนึ่งจึงพูดก่อนว่า " ท่านผู้เจริญ บรรดา
บุญกรรมมีทานเป็นต้น ชื่อว่าบุญกรรมอันดิฉันทำแล้ว ไม่มี, แต่ในกาล
ของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป ดิฉันได้เป็นทาสีของคนอื่น, นาย
ของดิฉันนั้น ดุร้ายหยาบคายเหลือเกิน ย่อมเอาไม้บ้าง ท่อนฟืนบ้าง ที่ตัว